หากเอ่ยถึง “นักคณิตศาสตร์ประกันภัย” หรือ “แอคชัวรี”แล้ว หลายคนคงตั้งคำถามในใจกันต่างๆ นานา ด้วยความที่ไม่คุ้นหูถึงอาชีพนี้เท่าใดนัก ทว่า ที่สหรัฐอเมริกาไปจนถึงประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่อย่างจีนนั้น วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวจำนวนมากต่างพยายามแข่งขันกันเพื่อร่ำเรียนกันในสาขาวิชานี้ ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่กำลัง”บูม”รุ่งโรจน์อย่างมากในตลาดแรงงานทีเดียว
เพราะหาก ซีอีโอ เป็นเสมือนกับ “เล่าปี่” ผู้กุมอำนาจใหญ่ในแผ่นดินแล้ว แอชชัยรี ก็ไม่ต่างอะไรกับ”ขงเบ้ง” ที่เป็นกุนซือหลัก ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนทัพให้ยิ่งใหญ่นั่นเอง
“พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน” ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายคณิตศาสตร์ประกันภัย บริษัท อมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (AIA) ประจำสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประเทศฮ่องกง ผู้คว้าคุณวุฒิ Fellowship of Society of Actuaries (FSA) ด้วยวัยที่น้อยที่สุดเพียง 28 ปี และขึ้นทำเนียบเป็น 1 ใน 4 นักคณิตศาสตร์ประกัยภัยของไทยที่ได้รับคุณวุฒิ FSA จะเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จขององค์กร ในฐานะ แอคชัวรี ให้ทราบกัน
“แอคชัวรี ก็คือ ผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่แน่นอน ให้เป็นความแน่นอน ซึ่งบริษัทประกันภัยมีหน้าที่บริหารความเสี่ยง หน้าที่ของเราคือประเมินว่าอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ต้นทุนจะเป็นอย่างไร หากนโยบายของภาครัฐเปลี่ยนไปจะส่งผลอย่างไร อัตราดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร การออกสินค้า การตั้งราคา การจ่ายผลประโยชน์ลูกค้า ตัวแทน การขายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงการตั้งเงินทุนสำรองควรจะเป็นอย่งไร เพื่อให้บริษัทอยู่รอดและไม่ขาดทุนในอนาคตผ่านทางการต้งสมมติฐานที่แม่นยำที่สุด” กุนซือหนุ่มใหญ่กล่าว
พิเชฐ เผยว่า แอคชัวรี มีหน้าที่หลัก 2 อย่างทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน สำหรับงานหน้าบ้านก็คือ งานทางด้านมาร์เก็ตติ้งหรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือหลัก 4 P (Product, Price, Place, Promotion) ในส่วนของ Product นั้นจะดูแลเกี่ยวกับวางแผนการตลาดประสานและติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับกรมธรรม์ต่างๆ รวมไปถึงการจัดทำ Focus Group เพื่อเก็บรวมรวมข้อมูลความต้องการของลูกค้า เพราะต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ทางด้าน Price หรือการกำหนดราคานั้น สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ การมองสมมติฐานให้ออกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องสามารถทำให้หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการขายกรมธรรม์และการลงทุนของบริษัทให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี
ส่วน Place ในที่นี้คือ ช่องทางการขาย ซึ่ง 90% เป็นการขายกรมธรรม์ผ่านตัวแทน ค่าคอมมิชชั่นสำหรับตัวแทนซึ่งจะมีฝ่ายบริหารตัวแทนไปดูแลจัดการอีกระดับหนึ่ง โดยที่แอคชัวรีมีหน้าที่ในการกำหนดงบประมาณเท่านั้น และสุดท้ายที่ Promotion จะดูแลเรื่องแคมเปญต่างๆ โดยพนวกกับการบริหารต้นทุน ซึ่งทุกสิ่งเป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องคำนวณออกมาให้ได้
เห็นงานหน้าบ้านหนักหนาขนาดนี้แล้ว งานหลังบ้านกลับสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยแอคชัวรีจะดูแลด้านการตั้งเงินสำรองของบริษัท โดยการบริการจัดการความเสี่ยง ซึ่งเงินสำรองมี 2 แบบ คือ เงินสำรองที่กรมการประกันภัยกำหนดไว้ และเงินสำรองแบบระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานระดับสากล ซึ่งสามารถแกว่งตัวได้ตามอัตราดอกเบี้ยด้วย โจทย์ที่ยากก็คือ จะตั้งเงินสำรองอย่างไรให้บริษัทอยู่ได้ถึง 100 ปีข้างหน้า ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในโลกปัจจุบัน
“แอคชัวรีมีความสำคัญมากต่อบริษัท เรียกว่า “ชี้เป็นชี้ตาย” บริษัทนั้นๆ ได้เลย ถ้าสมมติฐานที่ตั้งมาเป็นไปอย่งรอบคอบและสมบูรณ์ดีแล้ว บริษัทก็จะอยู่ได้ แต่หากไม่แม่นยำพอ หรือ ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ก็อาจมีผลให้บริษัทขาดทุนหรือถึงขึ้นล้มเหลวได้” แอคชัวรีหนุ่มใหญ่กล่าว
แน่นอนว่า เมื่อวิชาชีพนี้มีความสำคัญต่อองค์กร แอชชัวรีจึงไม่ใช่อาชีพที่เป็นกันได้ง่ายๆ การจะขึ้นทำเนียบเป็นแอคชัวรีได้นั้น ต้องผ่านการศึกษาและสอบวัดความรู้วัดกึ๋นกันอย่างหนักถึง 8 ระดับ ผ่านทางสอบข้อเขียน การสัมมนา และการทำโครงงานวิชาการโดยที่ไม่มีการเรียนการสอนให้ แต่จะเป็นไปในลักษณะแนะนำให้ศึกษาด้วยตนเองมากกว่า การสอบมีทั้งคณิตศาสตร์ประกัยภัย สถิติ การเงิน เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย งบการเงิน บัญชี วิธีการลงทุน
หากสอบผ่านใน 6 ระดับแรก จะได้รับคุณวุฒิ Associate of Society of Actuaries (ASA) ได้เป็น Qualified Actuary และหากสอบผ่านอีก 2 ระดับสุดท้าย ก็จะได้คุณวุฒิ Fellowship of Society of Actuaries (FSA) เป็นนักคณิตศาสตร์ประกัยภัยชั้นสูงเต็มตัว
การสอบจะเปิดสอบพร้อมกับทั่วโลกปีละ 2 ครั้ง ตัดคะแนนจากผู้เข้าสอบทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 30 – 40% แรกเท่านั้นจึงจะถือว่าสอบผ่าน ซึ่งปกติแล้วกว่าสจะสอบผ่านระดับหนึ่งต้องสอบกันถึงราว 3 รอบ ขณะที่อายุฌแลี่ยของผู้สอบผ่านระดับ FSA จะอยู่ที่ราว 32 – 33 ปี ซึ่งการสอบมหาหินนี่เองที่ทำให้หลายคนต้องใช้เวลาหมดไปไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ทว่า สำหรับ 1 ใน 4 นักคณิตศาสตร์ประกัยภัยชั้นสูงรายนี้ กลับคว้าคุณวุฒิ FSA มาได้ในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น หลังจากที่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะวิศวกรรมศาสตร์เริ่มสนใจในการนำคณิตศาสตร์และฟิสิกส์มาประยุกต์ใช้กับพื้นฐานของธุรกิจ กับช่องทางการขึ้นเป็นแอคชัวรี
“ขณะนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าแอคชัวรีคืออะไร จึงเข้าไปค้นในเว็บไซต์ มีบทความหนึ่งลงในหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ว่า แอคชัวรีเป็น 1 ใน 5 อาชีพที่ดีที่สุดของคนอเมริกัน ในส่วนของประเทศจีนก็มีความนิยมมากเช่นกัน ซึ่งแนวโน้มว่าจะต้องการมากขึ้นนับหมื่นคนในอีก 5 ปีข้างหน้า ระบบการศึกษาในจีนก็กำลังตื่นตัว และมีนักเรียนสนใจหันมาเรียนเฉพาะทางด้านนี้เป็นจำนวนมาก”
และข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พิเชฐได้เข้าร่วมงานกับ เอไอเอ ก่อนจะพัฒนาไปสูอาชีพในฝันได้ในที่สุด ในขณะที่ผลตอบแทนก็เรียกว่าคุ้มค่ากับความพยายาม โดยพิเชฐเล่าว่า ในอเมริกานั้น ให้ค่าตอบแทนประมาณ 1 แสนเหรียญสหรัฐต่อ ปี สำหรับ FSA สำหรับฮ่องกงอยู่ประมาณ 3 – 4 หมื่นเหรียญฮ่องกงต่อเดือน และในส่วนของไทยนั้นก็ไม่มากไปน้อยไปกว่าที่ฮ่องกงสักเท่าใดนัก เรียกว่าคุ้มกับที่เหนื่อยมาตลอด 4 ปีเต็มจริงๆ