ทราบไหมครับว่าตามสถิติของโลกในปัจจุบันนี้
ปรากฎว่ามีคนตายเกือบ 2 คนในทุกๆ วินาที (อ่านจบประโยคนี้ก็มีคนตายเพิ่มอีกละ)
ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าคุณมีชีวิตยืนยาวได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ก็จะมีโอกาสได้เห็นคนถึงเกือบ
4 พันล้านคนที่ล้มหายตายจากไปในช่วงที่คุณมีชีวิตอยู่ในโลกแบนๆ ใบนี้ (ตามที่ได้คำนวณไว้ในอัตรามรณะตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย)
และก็เป็นความจริงที่หลีกหนีไม่พ้นว่าคุณอาจจะต้องเป็นหนึ่งในสี่พันล้านคนเข้าในซักวินาที
ซึ่งถ้าลองกลับมาคิดดีๆ แล้วก็จะตระหนักว่า “ชีวิตคนเรานั้นช่างสั้นยิ่งนัก”
นอกจากสัปเหร่อกับอาชีพหมอแล้วก็น่าจะมีแอคชัวรีที่เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเคยได้ยินคำว่า
“ตาย” จนชินหูในที่ทำงานทุกวัน
ซึ่งตามความน่าจะเป็นทางสถิติก็จะทำให้รู้ว่าตัวเราเองจะน่าจะลาจากโลกนี้ไปเมื่อไร
รู้ว่ามีโอกาสที่จะตายในปีนี้เท่าไร และโอกาสที่จะตายในปีหน้าเป็นเท่าไร รวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่จะทำให้มีความน่าจะเป็นที่จะอายุสั้นลงเท่าไร
หรือแม้กระทั่งรู้ว่าถ้าอายุประมาณนี้จะมีความน่าจะเป็นที่จะได้อยู่ชมโลกถึงอายุเท่าไร
ถ้าแอคชัวรีมีระบบฐานข้อมูลที่ดีพร้อมแล้วก็จะสามารถคำนวณความน่าจะเป็นที่อยากจะรู้ได้ทุกอย่างโดยเอาสถิติประยุกต์มาใช้เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์
คำว่า “อัตรามรณะ” จึงเป็นปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งของแอคชัวรี
เปรียบเสมือนกับวัตถุดิบหรืออะไหล่ในการสร้างเครื่องยนต์ ถ้าไม่มีอัตรามรณะ แอคชัวรีก็ไม่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตให้กับสังคมได้
แต่แม้ว่าจะคลุกคลีกับอัตรามรณะหรือพูดคำว่า “ตาย” อยู่จนชินหูแค่ไหนก็ตาม ในส่วนลึกๆ
มันก็ยังเป็นเหมือนเรื่องไกลตัว เนื่องจากแอคชัวรีจะมีเพียงข้อมูลการตายและตัวเลขที่เก็บข้อมูลมาใส่บนกระดาษเท่านั้น
อัตรามรณะ
คือ ตัวเลขทางสถิติที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่คนแต่ละอายุ
แต่ละเพศจะตายลงเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น อัตรามรณะของชายไทยอายุ 65 ปี
ที่ไม่สูบบุหรี่ และมีสุขภาพปกติ เท่ากับ 5% ก็หมายความว่า
ในจำนวนบุคคลในกลุ่มนี้ 100 คน จะมี 5 คนที่จะมีโอกาสเสียชีวิตภายในช่วงอายุ 65 ปี
จนกระทั่งย่างเข้าอายุ 66 ปี เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อใดที่หยุดจากงานและมีเวลาว่างเป็นของตัวเองเมื่อไร
เราก็น่าจะหาโอกาสมานั่งทำความเข้าใจกับสัจธรรมของชีวิตเพื่อเตือนสติและเข้าถึงตัวเองให้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น