ปกติแล้ว
เราจะเรียกประกันภัยที่เกี่ยวกับสิ่งของว่า “การประกันวินาศภัย” ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว
เราสามารถแบ่งออกได้ตามสิ่งของที่ประกัน เช่น รถ เรือ บ้าน
หรือแม้แต่ลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว
อันเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของ เป็นต้น ถ้าจะกล่าวเป็นภาษาทางการ
เราจะบอกว่าประกันวินาศภัยคือ
การที่ผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
หรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนั่นเอง
ช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นจะต่างจากของธุรกิจประกันชีวิตตรงที่
ธุรกิจประกันวินาศภัยจะขายผ่านโบรกเกอร์ถึงประมาณ 50% ส่วนช่องทางหลักๆ
ที่เหลือจะเป็นตัวแทน ธนาคาร และขายตรงอย่างละประมาณ 12%
สำหรับประเทศไทยนั้น
เราได้แบ่งธุรกิจประกันวินาศภัยออกเป็น 4 หมวด ดังนี้
1.
การประกันภัยรถยนต์
2.
การประกันภัยอัคคีภัย
3.
การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
4.
การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
การประกันภัยรถยนต์
เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายบังคับให้ทุกคนที่มีรถยนต์จะต้องมีประกันรถยนต์ด้วย
จึงแบ่งการประกันรถยนต์ออกเป็นภาคบังคับและภาคสมัครใจ โดยในรอบปี 2555 นั้น
ภาคบังคับมีเบี้ยประกันภัยรับถึงประมาณ 13,000 ล้านบาท
และภาคสมัครใจมีเบี้ยประกันภัยรับถึงประมาณ 90,000 ล้านบาท
ซึ่งนับเป็นหมวดที่มีความสำคัญมากที่สุดในธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยเรา
การประกันภัยอัคคีภัย
การประกันอัคคีภัยนั้นเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่าการประกันไฟ
ซึ่งก็มีแรงดีดตัวให้เติบโตเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยในรอบปี 2555
นี้ก็เกือบโตมาในอัตรา 26% ทำให้เบี้ยประกันภัยรับสูงเกือบถึง
10,000 ล้านบาทแล้ว
การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
การประกันภัยประเภทนี้ คือ การประกันความเสียหายแก่เรือและทรัพย์สินหรือสินค้าที่อยู่ในระหว่างการขนส่ง
ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ทางทะเลแต่เพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงการขนส่งอื่นๆ
เช่น ทางอากาศและทางบกที่ต่อเนื่องกับขนส่งทางทะเลด้วย ไม่ว่าจะเป็นการประกันภัยในตัวเรือเอง
หรือประกันภัยสินค้าที่อยู่ในระหว่างการขนส่งทางทะเลก็ตาม
โดยเบี้ยรับประกันภัยในส่วนนี้มีประมาณ 5,000 ล้านบาทในรอบปี 2555
การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
การประกันภัยเบ็ดเตล็ด คือการประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุ
หรือเกิดจากเหตุที่มิได้คาดหมายไว้
ซึ่งอยู่นอกเหนือความคุ้มครองจากการการประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยอัคคีภัย หรือการประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
โดยการประกันภัยเบ็ดเตล็ดที่มีอยู่ในประเทศไทยตอนนี้มีหลายชนิด และมีขายอยู่ในธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยถึงมากกว่า
41 ประเภท เช่น การประกันภัยความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก หรือการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ก็จัดอยู่ในหมวดเบ็ดเตล็ด เป็นต้น และเป็นที่น่าจับตามองว่าสินค้าในหมวดนี้ได้เติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่าหมวดอื่นๆ
โดยในรอบปี 2555 ที่ผ่านมานั้น สินค้าในหมวดนี้โตถึง 38% และมีเบี้ยประกันภัยรับถึงมากกว่า
60,000 ล้านบาทแล้ว
โดยภาพรวมแล้วธุรกิจประกันวินาศภัยนั้นคงจะมียอดขายทะลุ
2 แสนล้านบาทต่อปีเป็นแน่ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้เป็นฟันเฟืองที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ถึงเป้าหมาย
รวมถึงทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปได้อย่างราบรื่นในวันที่เกิดเหตุที่คาดไม่ถึง
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของธุรกิจประกันวินาศภัยคือสินค้าส่วนใหญ่เป็นการขายแบบปีต่อปี
หมายถึงสินค้าจะหมดอายุภายใน 1 ปี จึงทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าการซื้อประกันชีวิตบางประเภท
อีกทั้งผู้ซื้อสามารถมีประสบการณ์จากการใช้สินค้าของธุรกิจประกันวินาศภัยมากกว่าสินค้าของธุรกิจประกันชีวิตที่บางครั้งไม่ได้มีประสบการณ์จากการใช้เพราะแบบประกันบางประเภทจะต้องรอให้เสียชีวิตก่อนถึงจะได้เงินคืนก็มี
·
[ พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน
(ทอมมี่) – ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทเอไอเอ รองนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย
และประธานคณะอนุกรรมการคณิตศาสตร์ประกันภัยของสมาคมประกันชีวิตไทย ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น