คุยกับแอคชัวรี –
การประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) ตอน ค่าใช้จ่ายจากช่องทางการจัดจำหน่าย
แน่นอนว่าสินค้าประกันภัยนั้นอยู่คู่กับการขาย
ซึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นก็มีอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนประกันภัย
โบรกเกอร์ ธนาคาร หรือการขายตรง เป็นต้น
การจะลดต้นทุนจากช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นเป็นไปได้ยาก
ถ้าสินค้าประกันภัยเหล่านี้ยังเป็นสินค้าเพื่อขายอยู่ (ไม่ได้ไว้เพื่อซื้อ)
เนื่องจากในกระบวนการขายตามปกตินั้น
จะต้องเริ่มตั้งแต่การพบปะลูกค้าเพื่อเข้าใจถึงความต้องการและอธิบายถึงความสำคัญของการทำประกันภัย
การให้ความรู้ทางด้านประกันภัย ตลอดจนเสนอแบบประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าคนนั้น
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการวิ่งไปมาเพื่อติดต่อกับลูกค้าอีกด้วย
(แถมสุดท้ายแล้วลูกค้าดันตัดสินใจไม่ซื้ออีกต่างหาก
และที่เจ็บใจมากไปกว่านั้นก็คือลูกค้าดันหันไปซื้อกับคนอื่นเสียอีก) สุดท้ายแล้ว
การได้รับการอบรมและสอบเพื่อเอาใบอนุญาตจากการขายนั้นก็เป็นค่าใช้จ่ายทางอ้อมที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกในการลด
“ค่าใช้จ่ายจากช่องทางการจัดจำหน่าย” เป็นอย่างแรกก็คือ
การเปลี่ยนประกันภัยรายย่อยเป็นแบบประกันสำหรับซื้อ (ไม่ได้ไว้สำหรับขาย)
โดยการที่ไปปลูกฝังให้ความรู้และมีแบบประกันภัยที่ง่ายและไม่สลับซับซ้อน
ซึ่งอาจจะในรูปแบบของการรณรงค์หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์กันทั้งประเทศเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงแบบประกันภัยรายย่อยที่มีในท้องตลาด
ยิ่งไปกว่านั้น
เพื่อตัดค่าใช้จ่ายในการที่ช่องทางการจัดจำหน่ายจะต้องวิ่งไปมาเพื่อติดต่อกับลูกค้า
แบบประกันภัยรายย่อยนี้ควรจะออกแบบเพื่อให้ลูกค้าวิ่งเข้ามาซื้อเองเสียมากกว่า
ดังนั้น ความสะดวกในการซื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญอีกเช่นกัน
และเมื่อทราบเหตุผลข้างต้นแล้ว
เราจะเห็นว่าช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยนั้นอาจจะไม่เหมาะนัก
เนื่องจากแบบประกันภัยรายย่อยที่ออกมาจะมีลักษณะที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้และปกติจะออกมาแค่ไม่กี่แบบ
(เกือบจะคล้ายๆ กัน) ทำให้อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาอธิบาย
อีกทั้ง
แบบประกันภัยรายย่อยส่วนใหญ่จะไม่มีการพิจารณารับประกันภัยและมีการตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายๆ
อย่าง ทำให้อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนคอยติดต่อกับลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแบบประกันภัยรายย่อยไม่สมควรจะขายผ่านทางช่องทางการจัดจำหน่ายทางตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย
เพียงแต่ค่าบำเหน็จหรือค่าคอมมิชชั่นจากแบบประกันภัยรายย่อยนั้นอาจจะแทบไม่มีเลยก็ได้
เพราะสินค้าเหล่านี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นสินค้าที่เอาไว้ให้ประชาชนวิ่งเข้ามาซื้อ
โดยไม่ได้เอาไว้ให้ช่องทางการจัดจำหน่ายวิ่งเข้าไปขาย
ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายที่เน้นให้คนเข้ามาซื้อนั้นก็คงจะเน้นเรื่องความสะดวกเป็นหลัก
และเมื่อนึกถึงความสะดวก ก็คงหนีไม่พ้น ร้านสะดวกซื้อ
หรือรวมไปถึงเคาน์เตอร์ตามห้าง
ที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติมจากช่องทางหลักปกติ
ซึ่งการจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายแบบนี้ได้
เป็นจะต้องอนุญาตให้พนักงานทั่วไปที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือความรู้ทางด้านการประกันภัย
สามารถขายประกันภัยหน้าเคาน์เตอร์ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ภาครัฐยินดีสนับสนุนช่วยบนพื้นฐานที่ทำให้สินค้าประกันภัยรายย่อยเป็นสินค้าที่ให้คนเข้ามาซื้อ
และการที่คนจะเข้ามาซื้อได้นั้นจำเป็นจะต้องตระหนักถึงความสำคัญในการทำประกันภัย
รวมถึงเข้าใจแบบประกันภัยรายย่อยเหล่านี้เสียก่อน
ภาครัฐจึงทำหน้าที่ผลักดันและสนับสนุนให้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้และเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ดีและเป็นสวัสดิการเพื่อสังคมและให้เข้าถึงประชาชนในระดับรากหญ้าได้
· [ พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน (ทอมมี่) – ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทเอไอเอ รองนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการคณิตศาสตร์ประกันภัยของสมาคมประกันชีวิตไทย ]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น